| 
 เตาร็อตเฉลยธรรมบัญญัติ
บทที่ 18 ข้อ 18 เราจะโปรดให้บังเกิดผู้เผยพระวจนะอย่างเจ้า  ในหมู่พวกพี่น้องของเขา
และเราจะใส่ถ้อยคำของเขาในปากของเขา
และเขาจะกล่าวบรรดาสิ่งที่เราบัญชาเขาไว้นั้นแก่ประชาชนทั้งหลาย
 ประการแรก 
คัมภีร์ตอนนี้เชื่อว่ามุสลิมทุกคนคงคิดไปถึงว่านบีคนต่อไปที่จะมีมา
คือนบีมูฮัมมัดแน่นอน
เพราะว่าพระเจ้าได้บอกกับชนชาติอิสราเอลว่าผู้ที่จะมานั้นสืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลเดียวกัน
จากวลีที่ว่า ในหมู่พวกพี่น้องของเขา  ดังนั้นในกรณีนี้ถ้านับต้นตระกูลลูกหลานตั้งแต่นบีอิสมาอีล  
ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนบีอิสฮัก 
แล้วนบีที่มีคุณสมบัติเหมือนกับนบีมูซานั้นจะเป็นใคร  นบีมูฮัมมัดเป็นนบีที่สืบเชื้อสายทางนบีอิสมาอีล  
และท่านก็มีคุณสมบัติที่เหมือนกับนบีมูซา ในยุคของท่าน  ท่านได้ก่อตั้งบทบัญญัติที่มาจากพระเจ้า
และรู่กุ่นต่างๆที่ประเจ้าประทานลงมา  
กระทำการอัศจรรย์   ฯลฯ   จากวลี   ในหมู่พวกพี่น้องของเขา
             เรามาทำความเข้าใจกันว่าหมายถึงอะไร
เพราะว่าในเมื่อพระเจ้าได้บอกกับชนชาติอิสราเอลเกี่ยวกับการเลือกกษัตริย์จาก
            คัมภีร์เตาร็อต ในเฉลยธรรมบัญญัติบทที่ 17
 ข้อที่ 14-15  ที่กล่าวไว้ว่า
 เมื่อท่านมาถึงแผ่นดินที่พระเยโฮวาฮ์   
พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน   
และท่านถือกรรมสิทธิ์อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น แล้วท่านจะกล่าวว่า 
เราจะตั้งกษัตริย์ไว้เหนือเรา 
เหมือนประชาชาติอื่นซึ่งอยู่รอบเรา  
ก็จงตั้งผู้ซึ่งพระเยโฮวาฮ์พระเจ้าของท่าน 
ทรงเลือกไว้ให้เป็นกษัตริย์เหนือท่าน  คือตั้งผู้หนึ่งผู้ใดในพวกพี่น้องของท่าน
ให้เป็นกษัตริย์เหนือท่าน
ท่านอย่าตั้งคนต่างด้าวซึ่งมิใช่พี่น้องของท่านให้อยู่เหนือท่าน
 แน่นอนว่าครอบครัวมุสลิมแถบตะวันออกกลางในยุคนั้น    
ต่างก็เฝ้ารอคอยจะได้พบกับชนชาติอิสราเอลที่เป็นวงศ์วานของอิสมาอีลเพื่อเป็นกษัตริย์ของพวกเขา
             ประการที่สอง 
เป็นการเปรียบเทียบนบีมูฮัมมัด กับนบีมูซา ในเฉลยธรรมบัญญัติบทที่
34  ข้อที่ 10-12 ที่กล่าวไว้ว่า ตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่มีผู้เผยพระวจนะคนใดเกิดขึ้นในอิสราเอลเสมอเหมือนมูซา     
ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงรู้จักหน้าต่อหน้า  ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนท่าน 
ในเรื่องหมายสำคัญ และการอัศจรรย์
ซึ่งพระเจ้าทรงใช้ท่านให้กระทำในแผ่นดินอียิปต์ต่อฟาโรห์   
และต่อบรรดาข้าราชบริพารของฟาโรห์และต่อแผ่นดินของท่านทั้งสิ้น
และในเรื่องอำนาจยิ่งใหญ่   และกิจการอันน่าเกรงกลัว 
และใหญ่โตซึ่งมูซากระทำในสายตาของคนอิสราเอลทั้งปวง
 คัมภีร์ตอนนี้ได้บรรยายถึงเอกลักษณ์พิเศษของนบีมูซา
และพันธกิจของท่านที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้า
และได้ชี้นำสิ่งใดบ้างถึงนบีที่จะมีขึ้นในอนาคต  
              มูซาเป็นชนชาติอิสราเอล มูซาได้เผชิญหน้ากับพระเจ้า คือได้คุยกับพระเจ้าโดยตรง กิจการที่น่าเกรงกลัวและใหญ่โต  มุสลิมส่วนใหญ่
นึกไปถึงท่านนบีมูฮัมมัดที่กระทำการสำเร็จและยิ่งใหญ่เทียบเท่านบีมูซา   
อย่างไรก็ตามเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่เสมอเหมือนกับมูซานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากท่าน
            อีซาอัลมะซีฮ์  
              
                
                  | มูซา   |   
                  อีซา   |     
มูฮัมมัด |  
                  | อยู่ท่ามกลาง  ชนชาติอิสราเอล    | 
อยู่ท่ามกลางชนชาติ อิสราเอล/วงศ์วานยูดา/
                   ( มัทธิว 1 :
3 ; ลูกา 3 : 33) | 
                  อยู่ท่ามกลางชนชาติอาหรับซ  (เราะฮ์ 46:12  , 36 : 6 ; 34 : 43 – 44) |  
                  | ว่าฮี  |     
                  ว่าฮี    |    ว่าฮี |  
                  | 
                  ได้รับโดยตรง (ซูเราะฮ์ 4 : 164/ อพยพ 33 : 11)    | 
                     
ได้รับโดยตรง   (ยะฮ์ยา
12: 49-50 /   14: 10) | ได้รับโดยผ่านญิบรีล
                   ( ซูเราะฮ์ 2: 97) |  
                  | การอัศจรรย์   | 
การอัศจรรย์  |  
การอัศจรรย์ |  
                  | ซูเราะฮ์ 2
: 50 ; 57  | ซูเราะฮ์ 
3 : 49 ; มัทธิว 8 : 27 ;  ยะฮ์ยา 6 : 11-14 | 
ซูเราะฮ์  6  : 37;   
28 : 48    |  มีเพิ่มเข้าไปจากคัมภีร์อินญีลที่ได้ยืนยันไว้ล่วงหน้าใน
            เฉลยธรรมบัญญติบทที่ 18 ข้อ 18 
ผู้ที่กระทำการสำเร็จก็คือท่านอีซาอัลมะซีฮ์ ซึ่งมีปรากฏในคัมภีร์อินญีล 
กิจการของอัครทูตบทที่ 3 ข้อ 17-26 ดังนี้ว่า  พี่น้องทั้งหลาย 
ข้าพเจ้าทราบว่าท่านทั้งหลายได้ทำการนั้น  เพราะไม่รู้เรื่องราวอะไร
            ทั้งคณะผู้ครอบครองของท่านก็ทำเหมือนกันด้วย 
แต่ว่าเหตุการณ์เหล่านั้น
ซึ่งพระเจ้าได้ประกาศไว้ล่วงหน้า   
โดยปากของผู้เผยวจนะทั้งหลาย    
ว่าท่านอัลมะซีฮ์ต้องทนทุกข์ทรมาน พระองค์จึงทรงให้สำเร็จตามนั้น
เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงหันกลับ และตั้งใจใหม่
เพื่อพระเจ้าจะทรงลบล้างความผิดบาปของท่านเสีย   
เพื่อวาระพักผ่อนหย่อนใจจะได้มาจากพระพักตร์พระเจ้าและเพื่อพระองค์จะได้ทรงใช้อัลมะซีฮ์ซึ่งกำหนดไว้แล้วนั้นมาเพื่อท่านทั้งหลาย  
คือ   ท่านอีซา พระองค์นั้นสวรรค์จะต้องรับไว้จนถึงวาระ 
เมื่อสิ่งสารพัดจะตั้งขึ้นใหม่ตามซึ่งพระเจ้าได้ตรัสไว้โดยปากของบรรดาผู้เผยพระวจนะบริสุทธิ์ของพระองค์ตั้งแต่กาลโบราณมา   
มูซาได้กล่าวไว้ว่าพระเจ้าของท่านทั้งหลายจะได้ทรงโปรดประทาน
ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง เหมือนอย่างเราให้แก่ท่าน 
จากจำพวกพี่น้องของท่าน
ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังผู้นั้นในสิ่งสารพัด
ซึ่งผู้เผยพระวจนะจะได้บอกแก่ท่าน
ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดไม่เชื่อฟังผู้เผยพระวจนะผู้นั้น 
เขาจะต้องถูกตัดขาดให้พินาศไปจากชนชาติของพระเจ้า และบรรดาผู้เผยพระวจนะ
ตั้งแต่สุไลมานเป็นลำดับมาก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกัน
พยากรณ์ถึงกาลครั้งนั้น
ท่านทั้งหลายเป็นลูกหลานของผู้เผยพระวจนะนั้น 
และของพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของท่านคือได้ตรัสกับอิบรอฮีมว่า
“บรรดาพงศ์พันธุ์ของแผ่นดินโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า”
ครั้นพระเจ้าทรงโปรดให้องค์ผู้รับใช้ของพระองค์เป็นขึ้นแล้ว 
จึงทรงใช้ท่านมายังพวกท่านทั้งหลายก่อน
เพื่ออวยพระพรแก่ท่านทั้งหลายโดยให้ทุกคนกลับจากบาปของตน  จากคัมภีร์ตอนนี้ที่สำคัญโดยเฉพาะที่มูซากล่าวว่า
            พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะได้ทรงโปรดประทาน
ผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง เหมือนอย่างเราให้แก่ท่าน จากจำพวกพี่น้องของท่าน
และมาพิจารณาจาก ซูเราะฮ์อัลก่อศ็อศ อายะฮ์ที่ 48 
  ครั้นเมื่อสัจธรรมจากเราได้มายังพวกเขา
พวกเขากล่าวว่า  “ทำไมเขา (มูฮัมมัด)
จึงมิได้รับเยี่ยงกับที่มูซาได้รับเล่า. . . .”
 จากอัลกุรอ่านตอนนี้แสดงให้เรารู้ว่า นบีมูฮัมมัดมิได้ทำการอัศจรรย์ต่างๆ
เทียบเท่ากับนบีมูซา เหตุผลก็เพราะว่าพระเจ้าทรงใช้นบีให้กระทำการต่างๆ
ที่แตกต่างกันออกไป  ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละเหตุการณ์นั้น
 |